ผักออแกนิค คืออะไร
หากไม่ใช่ผู้ที่มีความสนใจด้านนี้มากเป็นพิเศษ อาจจะตอบไปว่าผักออแกร์นิค คือผักที่สะอาด เป็นผักปลอดสารพิษ ซึ่งถือว่าถูกครึ่งหนึ่ง และผิดครึ่งหนึ่ง เนื่องจากความหมายที่แท้จริงมีมากกว่านั้น และแตกต่างจากการปลูกผักในรูปแบบอื่นอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากความจริงแล้ว ผักปลอดสารพิษนั้นไม่ใช่ว่าจะไม่ใช้สารเคมีเลย ในระหว่างการปลูกสามารถใช้สารเคมีช่วยได้ ถึงแม้จะไม่เป็นอันตรายต่อคน และพืชก็ตาม แต่พอในช่วงที่จะใกล้เก็บเกี่ยวจะมีการงดใช้สารเคมี วิธีนี้คือความหมายของ “ผักปลอดสารพิษ”
แล้วผักออแกนิคต่างกับผักปลอดสารพิษอย่างไร ? จุดแตกต่างคือผักออแกนิคนั้นจะใช้วิธีการเลี้ยงดูโดยธรรมชาติแบบ 100 % โดยผ่านการช่วยเหลือบางส่วน หรืออยู่ในการดูแลจากผู้ที่ทำการปลูก และตั้งแต่กระบวนการแรกของการปลูก จะต้องไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลยจนถึงกระบวนการเก็บเกี่ยว หรือสรุปสั้น ๆ คือ “การปลูกผักให้เหมือนกับเติบโตตามธรรมชาติในป่าเขา” และด้วยการดูแลโดยไม่ใช้สารเคมี จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการอยู่รอดได้ และมีระยะเวลาการปลูกที่นานมากขึ้น ส่งผลให้ผักออแกนิคมีราคาที่สูงกว่าผักทั่วไปนั่นเอง
อะไรที่บ่งบอกว่าเป็นผักแอนิค
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าหลายคนอาจสับสน ระหว่างผักปลอดสารพิษ กับผักออแกนิค นอกจากจะกระบวนการที่ปลอดภัยแบบ 100 % ตั้งแต่ขั้นตอนแรกแล้ว ยังมีข้อสังเกตระหว่างการดูแล ที่สามารถบ่งบอกได้ว่านี่แหละคือ ผักออแกนิค ที่ถูกต้อง ได้แก่
ทุกอย่างต้องเป็นธรรมชาติ : ทุกอุปกรณ์ และขั้นตอนในการปลูกจะไม่มีสารเคมีใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ต่อให้สารเคมีนั้นมีความปลอดภัยอย่างมากก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้ การดูแลทุกอย่างจะต้องมาจากการหมักเท่านั้น รวมถึงเมล็ดที่นำมาปลูกก็จะต้องไม่ได้ผ่านการปรับแต่งมาด้วยเช่นกัน
ดินต้องสะอาด และสมบูรณ์ : หากดินเคยใช้สารเคมีในการปลูกผักต่าง ๆ มาก่อนหน้านี้ ต้องปรับดินให้หยุดใช้สารใด ๆ ให้ได้ 3 ปีขึ้นไป หรือไม่ควรใช้ดินที่ปลอดสารเคมีตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปก็ได้ ทั้งนี้ในดินจะต้องมีสารอาหารที่สมบูรณ์ และสามารถอุ้มเก็บน้ำได้ดี เพื่อให้ผักที่ปลูกสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
น้ำต้องมีความจำเพาะ : แม้เรื่องง่าย ๆ อย่างการรดน้ำนั้นก็ไม่สามารถมาจากแหล่งน้ำทั่วไป เนื่องจากแหล่งน้ำในปัจจุบันมักมีสารเคมีปะปนอยู่ไม่มาก ก็น้อย ถึงแม้อาจจะไม่ได้ส่งผลอะไร แต่การปลูก ผักออแกร์นิค ส่วนมากจะใช้น้ำที่ถูกขึ้นลงไปลึกค่อนข้างมาก เพื่อเพิ่มโอกาสในการเจอน้ำที่สะอาดได้มากยิ่งขึ้น
อาจไม่กำจัดวัชพืช : หากกล่าวกันตามความเป็นจริงแล้ว ผักที่อยู่ตามธรรมชาติจะไม่สามารถกำจัดวัชพืชเองได้ แต่ก็นังสามารถเติบโตมาได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากการมีวัชพืชบางส่วนจะมีประโยชน์อยู่ด้วย เช่น การช่วยรักษาพื้นดิน หรือทำให้มีกากใยในดิน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้บางแห่งจึงเลือกที่จะไม่กำจัดวัชพืชออกไปเสียทั้งหมด
นอกจากการสังเกตข้อมูลเหล่านี้แล้ว โดยปกตินอกจากความปลอดภัยที่ได้จากการทานผักที่ปลูกด้วยวิธีออแกร์นิค ยังมีข้อดีที่สังเกตได้ตลอดกระบวนการดังกล่าว คือ การลดมลพิษที่เกิดจากการใช้สารเคมี หรือเครื่องทุ่นแรงต่าง ๆ ถือเป็นการปลูกผักยุคใหม่ที่มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน
ประโยชน์ของผักออแกร์นิคต่อทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ หรือเด็ก ๆ ย่อมได้รับประโยชน์จากการทานผักออแกร์นิคอยู่แล้ว โดยเฉพาะเด็กวัยกำลังโตที่ต้องการอาหารที่มีประโยชน์ สะอาดไม่มีสารเคมีใด ๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถเติบโตขึ้นสมกับพัฒนาการที่ควรจะเป็น หรือจะเป็นคนวัยทำงาน หรือผู้สูงอายุที่ใช้ร่างกายมาก การให้ร่างกายได้รับของที่มีประโยชน์แน่นอนว่าจะส่งผลดีอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่
ลดโอกาสเสี่ยงมะเร็ง : ผักสะอาดไร้สารพิษ หรือสารเคมีมีการค้นพบสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าผักแบบทั่ว ๆ ไป และข้อมูลนี้เองทำให้หลายคนใช้วิธีการทานผักออแกร์นิคเพื่อเพิ่มโอกาสป้องกันโรคมะเร็งในร่างกาย
มีผลกับทารก และเด็ก : โรคร้ายหลายอย่างที่สามารถเกิดกับทารก หรือเด็ก เช่น สมองพิการ, ซนผิดปกติ และโรคออทิสติกได้ หากคุณแม่ตั้งครรภ์หันมาทานผักออแกร์นิคตั้งแต่ตั้งครรภ์ หรือช่วงให้นมลูก จะช่วยให้น้ำนมของคุณแม่มีความสมบูรณ์มากขึ้น เพราะมีกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อลูกน้อยนั่นเอง
รสชาติที่ดีกว่า : การได้ทานอาหารที่สะอาดปลอดสารทุกกระบวนการ แน่นอนว่าจะต้องมีรสชาติที่เป็นธรรมชาติมากกว่า จนหลายคนอาจติดใจหลังจากลองทานครั้งแรก ถือเป็นข้อดีที่ใครหลายคนไม่ควรพลาด
ฟื้นฟูสภาพดิน : การไม่ใช้สารเคมีในการปลูกส่งผลให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น มีแร่ธาตุที่จำเป็นในการปลูกพืชผลในครั้งต่อ ๆ ไปได้ โดยไม่ต้องผ่านการปรุงแต่งเพิ่ม หากดินสามารถปลูกผักพืชผลต่อได้ แต่หากดินไม่สมบูรณ์ผลผลิตที่ได้ก็อาจไม่สมบูรณ์มากพอ และจะทำให้ผลผลิตมีสารอาหารที่ลดน้อยลงไปอีกด้วย
ลดต้นทุนช่วยเกษตรกร : การปลูกผักแบบออแกร์นิคมีต้นทุนที่ถูกขึ้น เนื่องจากไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายด้านสารเคมีต่าง ๆ ที่อาจมีราคาพอสมควร แล้วแต่การใช้งาน แน่นอนว่าต้องแลกมากับการปลูกที่ใช้เวลานานมากขึ้น แต่อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า หลังทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตมาขาย จะสามารถทำกำไรได้ดีกว่าการปลูกแบบปกติทั่วไป
การทานผักออแกร์นิคไม่ใช่แค่สามารถสร้างประโยชน์ต่อตัวของเราเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างผลดีให้กับบุคคนรอบตัวของเราได้ทั้งช่วยเหลือเกษตรกร หรือช่วยลดภาวะโลกร้อนจากการใช้เครื่องมือ หรือสารเคมี ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่เราจะไม่ควรทานผักแบบออแกร์นิค